ประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตที่จะนั่งรถไฟเที่ยวอัมพวา ด้วยตัวเอง ที่ไม่มีไกด์ช่วย ไม่มีใครเคยไปที่นี่ ไม่มีใครรู้เส้นทางมาก่อน​ (ห๊ะ !?!) ปล. เอนทรี่นี้ เนื้อหาค่อนข้างยาวและรูปเยอะ เพราะฉะนั้นทนๆ กันอ่านหน่อยนะครับ ขี้เกียจลงแยกเอนทรี่ 5555 ปล2. เดี๋ยวจะบอกว่าค่าใช้จ่ายการไปเที่ยวครั้งนี้รวมแล้วกี่บาท (ให้ทายก่อนอ่านจบ)

เมื่อ 15 วันที่แล้ว

“เบื่ออยู่บ้านแล้วยังออกไปข้างนอกอ่ะพี่” “อยากทำอะไรอ่ะ” “อยากนั่งรถไฟ” “ห๊ะ ??? จะไปไหน” “ไปอัมพวาก็ได้ ใกล้กรุงเทพฯ ดี” “เอาจริงเหรอ ???” “จริงๆ” “…… งั้นไปก็ได้” บทสนทนาเล็กๆ ระหว่างจากคุยกับเพื่อนคนนึงผ่าน line การวางแผน one day trip ไปอัมพวาก็ได้เริ่มต้นขึ้น และบทสนทนานั้นเองทำให้เราต้องไปหาคน มาเพิ่ม (เผื่อกันหลง จะได้หลงไปด้วยกัน =3=) สุดท้ายก็ได้เพิ่มมาอีกคน รวมทริปนี้ไปกัน 3 คน เฮ้ ~~ ไปเที่ยวอัมพวากันเล้ย !! เราในฐานะหัวหน้าขบวนนำเดินทางทำการเริ่มค้นหาข้อมูลวิธีการไป สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ วางแผนไปว่าจะต้องไปเที่ยว สถานที่ไหนบ้างโดยปลายทางที่วางแผนไว้นั้นก็คือ “ตลาดน้ำอัมพวา” นั่นเอง

ทริปกรุงเทพฯ - สมุทรสงคราม - ตลาดร่มหุบ  - ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา

และแล้ว การเดินทางอันแสนสดใสของพวกเราสามกันก็ได้เริ่มต้นขึ้น

………………………….. ซะที่ไหนวะ !!!!!

เมื่อหนึ่งวันที่แล้วก่อนออกเดินทาง

“เฮ้ย~ ได้ดูข่าวยัง เมื่อบ่ายมีรัฐประหารนะ” “เออใช่ๆ เพิ่งได้ข่าวเคอร์ฟิว ว่าปิด 4 ทุ่ม” คราวซวยอย่างแรกย่อมบังเกิด จะไปหรือไม่ไปดีวะ ทริปที่อุตส่าห์วางแผนเกือบครึ่งเดือนอยู่ดีๆก็จะล่มซะงั้น จะมาไปรือไม่ไปดี จะได้กลับบ้านทันไหม จะมีร้านค้าขายไหมเนี่ย ทุกอย่างมีคำถามโดนยิงเข้าสมอง ณ วินาทีนั้น สุดท้ายก็ได้ตัดสินใจว่า “เออ… ไปก็ได้วะ เดี๋ยวถ้าฉุกเฉินอะไรก็หาทางเอาข้างหน้าละกัน” ทุกคนตกลงว่าจะไป โดยไม่ได้คิดว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ช่างมันกะไว้ในใจแล้ว ถ้าไปถึงอัมพวาแล้วไม่มีร้านขาย เดี๋ยวไป 7-11 ข้างทางกินก่อนกลับ 555+

วันออกเดินทาง

โดยรวมนั้นเจอกันว่าจะเจอกันที่นี่ 8 โมงเช้าที่ BTS วงเวียนใหญ่ โดยตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว (ใช่มั้ง? ) ทำให้การขึ้นรถไฟไปนั้น “ฟรี” (ต้องใช้บัตรประชาชนไปเป็นหลักฐานในการรับตั๋วนะ) จากนั้น 8.45 น. รถไฟก็เริ่มขับเคลื่อนขบวน รถไฟที่ขึ้นไปวันนี้ถือว่าโอเค คนไม่เยอะมาก แต่ก็เยอะ (อะไรของแก!!) ก็เลยนั่งชิวๆ ถ่ายรูปบ้าง คุยบ้าง จนกระทั่งถึงปลายทางคือ “สถานีมหาชัย” สถานีมหาชัยยังไม่ใช่ปลายทางนะ แต่ว่าเราต้องนั่งเรือข้ามฟากไปนั่งรถไฟอีกสถานีนึง เมื่อนั่งมาถึงปลายทางก็จะเจอ “ตลาดมหาชัย” แต่ก่อนอื่นนั่งรถข้ามฟากไปอีก จะว่าไป ที่นี่ก็เหมือนเยาวราชดีนะ  5555 ที่นี่มีอาหารสดซะส่วนใหญ่ เลยไม่ค่อยได้กินอะไรที่นี่เลย

จากนั้นในแผนที่เค้าบอกให้ขึ้นท่าเรือไป ตอนนี้หิวแล้วข้าวเช้าแทบไม่ได้ทานอะไรเลย ก่อนขึ้นท่าเรือมีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตู๋นพอดีเลยแวะทาน รสชาติใช้ได้เลยนะราคา 35-40 บาท ก็โอเค !

10.12 : ท่าเรือมหาชัย - ท่าฉลอม

ไม่ไกลๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะราคา 3.50 บ. นึไงเนี่ย ออกไปจากตลาดจะเจอเรือข้ามฟากไป ก็ขึ้นได้เลย

10.36 : สถานีรถไฟบ้านแหลม

พอไปถึงก็ไปดูชานชาลา ปรากฎว่ารถออก 12.05 ตอนนั้น 10 โมงอยู่เลย (ไม่มีรอบ 11.00 ในวันนั้น เศร้าเลยสิครัช) เลยต้องหาอะไรทำรออีกประมาณ 2 ชม. เลยไปถ่ายรูปเล่น แล้วก็นั่งรถไฟต่อไป

จนถึงประมาณบ่ายสอง จากแผนการเดิมที่ต้องวางแผนว่าต้องถึงสักเที่ยงเพื่อหาอะไรทาน ตอนนี้ต้องรีบหาทางไปถึงตลาดน้ำอัมพวาให้เร็วที่สุดแล้ว (ไม่งั้นกลับบ้านเย็นแน่ๆ)

14.00 : สถานีแม่กลอง - ตลาดร่มหุบ

ตอนนี้อยู่ตลาดร่มหุบ (แอบมาลองจับเวลาเล่นๆ เค้าจะใช้เวลากี่นาทีในการจัดของ ปรากฎว่าหลังจากรถไฟผ่านไป ใช้เวลาไม่เกิน 2 นาทีในการจัดของเรียบร้อย แหม่เร็วดีจริงๆ) จากนั้นมาหาอะไรทาน ผ่านไปเจอร้านอาหารตามสั่ง ได้สั่งข้าวกะเพราหมูกรอบ + ไข่ดาว

ทายสิเท่าไหร่ ? 69 บาท!!!  คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ T_____T(รวมน้ำแล้ว) ไม่รู้ว่าไปหาร้านอะไรผิดรึเปล่า แต่โดนร้านนี้แพงมากเลย ;3; เข้าใจว่าราคานักท่องเที่ยวแต่มันก็รู้สึกว่า เยอะไปอยู่ดีสำหรับคนไทย (เฮ้อ~) ช่างมันหลังจากการที่กินเสร็จก็ได้ถามทางต่อ (เพราะไหนๆ ก็เสียตังละ ขอค่าบริการอีกนิดละกัน) เค้าบอกว่าให้ขึ้นรถบัสที่อยู่ด้านหน้า 7-11 ไปอีกนิด โอเค ไปขึ้น ….. เดี๋ยว !! 7-11 มีกี่ที่วะ = =… เดินหลงจนพี่วินมอไซด์ชี้ทางให้ ขอบคุณครับ

15.00 : ขึ้นรถตู้

ค่ารถบัสทีนี่แค่ 10 บาทเอง จากตลาดร่มหุบไปตลาดน้ำอัมพวา

15.21 : ตลาดน้ำอัมพวา

สิ่งที่เซอร์ไพรส์กว่าก็คือ ฟ้าฝนช่างเป็นใจ !!!!! (ประชด) แล้วมันก็โหมกระหน่ำตกมาเลยครับ ตกมาไม่พอพายุเข้าอีก = =…. ดีจริงๆ ตอนนั้นรถก็ถึงตลาดน้ำแล้วแต่ไม่ไหนไม่ได้ ติดฝนอยู่แบบนั้น T______T ไรกัน อุตส่าห์มาไกลได้ถึงเพียงนี้แล้ว กลับไม่ได้เที่ยวงั้นเหรอ ….!

รอไปเกือบ ชม. ฝนค่อยซา สุดท้าย “เอาวะ ยังไงต้องลุยแล้ว ไม่งั้นก็ไม่ได้เที่ยวซักที” เลยลุยฝนเข้าไปด้านใน จากนั้นก็ไปซื้อร่มกันฝนร้านของชำในราคา 99 บาท พอซื้อเสร็จปั๊ปฝนหยุด //สมกับเป็นร่มกันฝนสมชื่อครับ TwT โอเค … ฝนหยุดแล้วเดินเที่ยวกันดีกว่า นับว่าวันนี้ที่มาเที่ยว คนน้อยมาก เทียบกับปกติที่มีคนพลุกพล่านจากโรงเรียน จากทัวร์ วันนี้ไม่มีเลยผลจากวันรัฐประหาร เดินสะดวกมาก รูปที่ไปเที่ยวตลาดอัมพวา คาดว่าไปหาเอาเว็บอื่นก็ได้ มีเยอะแล้ว //โดนเตะ สุดท้ายก็ได้ไปกินร้านไก่ย่างชื่อดัง !!

17.20 : ร้านภวัตส้มตำไก่ย่าง

หลังจากเดินทางมาเหนื่อยทั้งวันแล้ว ขอมากินให้สมกับเป็นรางวัลค่าเหนื่อยหน่อย ถามว่าอร่อยไหม ก็โอเคนะ ให้แนะนำก็คือต้มแซ่บชอบมาก ไก่ย่างโอเค น้ำเสิร์ฟมาเป็นขัน ส่วนราคากำลังพอดี ในสถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ (ยังรู้สึกเสียดายตังค่าข้าวกะเพราเมื่อกี้อยู่ ;w;)

18.10 : คิวรถตู้อัมพวา - อนุสาวรีย์ฯ

ากนั้นก็ได้นั่งกลับรถตู้ลงอนุสาวรีย์ …. คิดว่าเรื่องมันจะจบง่ายๆ ใช่ไหม … คุณคิดผิดแล้ว !!? รถตู้ออกจากที่นี่หนึ่งทุ่ม ในตอนนั้นเองประมาณช่วงเวลาเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม BTS ปิด 3 ทุ่ม ทุกอย่างดูทุลักทุเลมาก พอถึงสถานีรีบกลับบ้านมาก คนขับก็แอบเห็นว่ารีบนะ พี่ใส่มิดเกียร์เลย T____T จะทันไม่แน่ๆ ปรากฎถึง 21.50 น. โอเค วิ่ง 4 x 100 m ไปส่งน้องที่ BTS ซึ่งเป็นเที่ยวสุดท้ายด้วย (รอดไป) เป็นอีกหนึ่งวันที่จบลงด้วยดีมั้ง เอาไปว่าใครอยากนั่งชิวๆ ไปตลาดน้ำอัมพวา ลองมาเดินทางผ่านรถไฟก็สะดวกดีนะครับ

ราคารวมกินทั้งหมดไม่เกินพันนึงแน่ๆ (แต่ถ้าไม่ไปร้านอาหาร ไม่ซื้อของฝากก็ไม่เกิน 600 บาทแน่นอน)

เวลาเดินผ่านไปเร็วแล้ว ลองหันมาขึ้นรถไฟให้เวลาผ่านไปช้าๆ บ้างไหม ชีวิตมีอะไรให้น่าคิดอีกเยอะนะ แล้วจนกว่าจะพบกันใหม่ สวัสดีครับ  ^ ^…..

คำแนะนำสำหรับคนที่จะทริปนี้

เผื่อไว้เป็นอุทาหรณ์หน่อยเผื่อมีคนเลียนแบบ 5555+

1. ดูพยากรณ์อากาศก่อนเดินทาง - จะได้ไม่ต้องมาซื้อร่มแบบนี้ไง 555
2. ตอนอยู่ในรถไฟอาจจะน่าเบื่อ แนะนำก่อนขึ้นซื้อน้ำ ขนมหรือหากิจกรรมเล่นไประหว่างทางก็โอเคอยู่นะ
3. นึกไม่ออก Google Map ช่วยคุณได้เสมอ และชาวบ้านแถวนั้นเค้าก็ช่วยได้ ถามเค้าได้นะไม่กัดหรอก 555
4. แน่นอนว่าไปนั่งรถไฟ อาจจะกลับดึกแน่นอน ไม่แนะนำสำหรับคนรีบนะ ใครรีบนั่งรถตู้ไปง่ายกว่า